เมื่อหลายปีก่อน มังคุด ผลไม้พื้นบ้านไทย ได้สร้างความตื่นเต้น ครั้งใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์ไทย เมื่อนักวิจัยไทยพบว่า ในเปลือกของมันมีสารสำคัญ ที่มีประโยชน์มากมายทั้งในทางยา และสามารถนำมาใช้ เพื่อผลิตเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี 

จากการค้นพบครั้งนั้น ทำให้เกิดกระแสตื่นตัว นำเปลือกมังคุดมาใช้ในการผลิตยา และเครื่องสำอางกันเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อแชมพู สบู่ และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเปลือกมังคุด กันอย่างแพร่ หลายทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนจำนวนมากไม่ทราบว่า เปลือกมังคุดเองนั้นมีทั้งคุณและโทษ หากนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่นการนำเปลือกมังคุดมาใช้ โดยตรงอาจทำให้ เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงและเป็นอันตรายต่อผิวได้

ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการอำนวยการเอเชียน นูทราซูติคอล เซ็นเตอร์ (ANC) นักวิจัยชั้นแนวหน้าของไทย ผู้ริเริ่มและทุ่มเทกับการวิจัยเรื่องมังคุดมานานกว่า 25 ปี เปิดเผยว่า ในเปลือกมังคุดนั้น มีสารที่เรียกว่า GM-1 ซึ่งเป็นสารที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยม 4 อย่าง คือ ยับยั้งและทำลายเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเส บที่ผิวหนัง ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิวให้กระชับ เนียนขึ้น ซึ่งสรรพคุณเหล่านี้ เป็นคุณสมบัติที่เหมาะแก่การนำมาใช้ เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอาง

อย่างไรก็ตาม ในเปลือกมังคุดยังมีสารอีกหลายอย่างรวมทั้งแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสีเข้ม หากได้รับสารดังกล่าวอยู่เป็นประจำจะทำให้ ผิวหมองคล้ำได้การนำเปลือกมังคุดมาใช้โดยตรง ไม่ได้สกัดเอาแทนนิน และสารอื่นออกอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้

ดร.พิเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า การสกัดเปลือกมังคุดเพื่อให้ได้สาร GM-1 บริสุทธิ์นั้น ค่อนข้างซับซ้อน ต้องผ่าน กระบวนการตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อกำจัด แทนนินที่ทำให้ผิวคล้ำและสารอื่นที่ไม่ต้องการออกไป เพื่อให้ ได้สาร GM-1 ที่บริสุทธิ์ ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง และมีคุณสมบัติครบ ถ้วนในการยับยั้งและ ทำลายแบคทีเรีย การลดการอักเสบและการเกิดสิว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ตลอดจนกระชับรูขุมขนทำให้ผิวเนียนสดใสขึ้น นอกจากนี้ การนำสาร GM-1 มาใช้ให้ได้ผล จะต้องมีการใช้อย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

ดร.พิเชษฐ์กล่าวว่า "การนำพืชและสมุนไพรไทย เช่นเปลือกมังคุดมาเป็นวัตถุดิบ ในการผลิต เครื่องสำอางนั้น เป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค  ที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย และการใช้วัตถุดิบที่เราสามารถหาได้ในประเทศ ช่วยส่งเสริมการเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิต ในประเทศ ซึ่งสนับสนุน การสร้าง เศรษฐกิจ ที่แข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทย เพราะ ในแต่ละปีประเทศไทยนำเข้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง เป็นมูลค่าสูงกว่าหมื่นล้านบาท ถ้าเราสามารถผลิตสินค้าเหล่านี้เองได้ จะเป็นการทดแทนการ นำเข้าที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยลดการขาดดุล การค้าต่างประเทศ และยังสร้างรายได้ จากการส่งออกได้

จาก Thairath Daily